การล้างสารพิษคืออะไร (Cleanse, Detoxification)-by-Doctor-Healthcare

          ความเข้าใจผิดๆของการล้างสารพิษหรือดีท็อกซ์ยังมีอยู่ทั่วไป บ้างเชื่อว่าดีท็อกซ์คือยาระบาย บ้างเชื่อว่าดีท็อกซ์คือวิธีการลดน้ำหนักที่ดี บ้างเชื่อว่าดีท็อกซ์ที่ปลอดภัยคือการสวนล้างลำไส้ใหญ่ หลายคนเริ่มสงสัยว่าอะไรคือความเชื่อที่ตรงตามข้อมูลทางการแพทย์มากสุด

ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการดีท็อกซ์ล้างสารพิษ

          จากแหล่งข้อมูลการแพทย์ตั้งแต่สมัยกรีกโบราณ อายรุเวท จีน มีการทำดีท็อกซ์และเป็นที่นิยมในกลุ่มคนทุกชนชั้น วิธีการมีหลากหลายตั้งแต่การหายใจรับอากาศบริสุทธิ์ การเลือกรับประทานอาหารที่ดีเน้นความเป็นธรรมชาติ อุดมไปด้วยใยอาหาร วิตามินต้านอนุมูลอิสระ ลดแป้ง น้ำตาล และไขมัน เพิ่มการดื่มน้ำ การขับถ่ายที่เหมาะสม และการปรับสภาพจิตใจให้ไม่เครียด การทำดีท็อกซ์ล้างสารพิษนั้นทำเพื่อลดสารพิษซึ่งสารพิษนั้นเรามองไม่เห็นด้วยตาแล้วเข้าสู่ร่างกายโดยแฝงมากับสิ่งที่รอบตัวเรา เช่น อากาศ อาหารเครื่องดื่มที่เราบริโภคทุกวัน เช่น แอลกอฮอล์ กาแฟ อาหารที่มากด้วยน้ำตาลและไขมัน บุหรี่  ทุกวันนี้เราบริโภคสารเคมีมากมายทั้งที่คาดเดาได้และคาดไม่ถึงก็ยังมีอีกมาก เช่น

สารเร่งเนื้อแดง สารเร่งเนื้อแดงอีกชนิดหนึ่งที่นิยมในปัจจุบันคือ ซัลบูทามอล (Salbutamol) ซึ่งหาซื้อได้ง่ายกว่าเพราะมีการใช้เป็นยาของคน แต่นำซัลบูทามอลมาใช้ผิดวัตถุประสงค์ คือใช้เป็นสารเร่งเนื้อแดงโดยผสมในอาหารและน้ำสำหรับเลี้ยงหมู เพื่อให้ซากหมูมีเนื้อแดงมาก มีไขมันน้อยซึ่งทำให้ได้ราคาดีการบริโภคเนื้อสัตว์ที่มีสารเร่งเนื้อแดงตกค้างอยู่ มีผลต่อการทำงานของระบบประสาทที่ควบคุมการทำงานของกล้ามเนื้อหัวใจ กล้ามเนื้อเรียบของหลอดเลือด หลอดลม กระเพาะปัสสาวะ เป็นต้น อาจมีอาการมือสั่น กล้ามเนื้อกระตุก ปวดศีรษะ หัวใจเต้นเร็วผิดปกติ กระวนกระวาย วิงเวียนศีรษะ บางรายมีอาการเป็นลม นอนไม่หลับ คลื่นไส้ อาเจียน มีอาการทางจิตประสาท

สารฟอกขาว หรือสารซัลไฟต์(SO2)เป็นสารเคมีที่นิยมใช้ในอุตสาหกรรมการผลิตอาหารหลายประเภท โดยใช้เป็นสารกันเสียเพื่อป้องกันและยับยั้งการเจริญของจุลินทรีย์ ใช้เป็นสารกันหืนเพื่อป้องกันการเกิดปฏิกิริยาออกซิเดชันของไขมันในอาหารที่ จะทำให้เกิดการเหม็นหืนในผลิตภัณฑ์นั้น เนื่องจากมีคุณสมบัติยับยั้งปฏิกิริยาการเปลี่ยนแปลงเป็นสีน้ำตาลซึ่งเกิดขึ้นในอาหารหลายประเภท เช่น อาหารทะเลแช่แข็ง การผลิตน้ำตาล น้ำผลไม้ ผลิตภัณฑ์จากแป้ง เช่น เส้นก๋วยเตี๋ยว ขนมจีน การได้รับสารกลุ่มนี้ในปริมาณมากก่อให้เกิดอันตรายแก่ผู้บริโภคได้ อาการความเป็นพิษที่เกิดขึ้นจะมีความแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล กลุ่มคนที่มีความเสี่ยงสูงต่อการได้รับสารกลุ่มนี้ คือ กลุ่มผู้ที่เป็นโรคหอบหืด

สารบอแรกซ์ หรือ“โซเดียมบอเรท” มีการนำมาใช้ประโยชน์ใน ทางอุตสาหกรรมหลายชนิด เช่น ทำแก้ว ภาชนะเคลือบ เครื่องสำอาง ยา ชุบโลหะ เป็นต้น หรือในการผสมสูตรผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ เช่น ยากำจัดตะไคร่น้ำสำหรับการดูแลจัดการกับน้ำในสระว่ายน้ำ ยาฆ่าแมลง ยาฆ่าเชื้อราเพื่อการดูแลรักษาเนื้อไม้ อาหารที่มักตรวจพบบอแรกซ์ ได้แก่ แป้งกรุบ ลูกชิ้น ทอดมัน มะม่วงดอง ไส้กรอก หัวไชโป๊ หมูยอ ผักกาดเค็ม เนื้อสัตว์บดสับ ทับทิมกรอบ ลอดช่อง อาการของผู้ที่ได้รับบอแรกซ์ จะมีอาการ คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเดิน เจ็บในช่องท้อง กระเพาะอาหารและลำไส้ อุจจาระเป็นเลือดในบางครั้ง มึนซึม ปวดศีรษะ นอนไม่หลับ เป็นผื่นแดง พุพองตามผิวหนัง และการทำงานของตับและไตถูกทำลาย

สารหนู ยาฆ่าแมลง ยาเบื่อหนู สารป้องกันเนื้อไม้ ส่วนผสมของสีบางชนิดผงซักฟอก รวมถึงยาบางชนิด สารหนูสามารถเข้าสู่ร่างกายคนเรา ได้ทั้งทางผิวหนัง ทางเดินหายใจ ส่วนใหญ่จะเกิดจากการหายใจเอาฝุ่น ดินที่มีสารหนูปนเปื้อนเข้าไป การดูดซึมขึ้นอยู่กับขนาดฝุ่น และชนิดของสารหนูที่ปนเปื้อนในฝุ่น อีกทั้งสารหนูยังมีการปนเปื้อนในอาหารหลายชนิด ทั้งผัก ผลไม้ และเนื้อสัตว์ โดยเฉพาะสัตว์น้ำ เช่น กุ้ง ปลา เป็นต้น

animal-1554745_640

อะฟลาท็อกซิน คือสารพิษที่ผลิตจากเชื้อรา พบได้ในเมล็ดธัญชาติ ถั่วเมล็ดแห้ง และเมล็ดพืชน้ำมันชนิดต่างๆ เช่น ข้าวโพด ข้าวฟ่าง ข้าว ข้าวสาลี ถั่วลิสง มะพร้าว สมุนไพร เครื่องเทศ และในผลิตภัณฑ์แปรรูปแทบทุกชนิดที่ใช้วัตถุดิบจากผลิตผลทางการเกษตรที่มีเชื้อราชนิดนี้ปนเปื้อนอยู่ก่อน ปัจจุบันองค์การ IARC ( International Association Research Cancer ) ได้จัดสารอะฟลาทอกซิน เป็น สารก่อมะเร็ง Class I ซึ่งส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นที่ตับ และอาจก่อมะเร็งในอวัยวะอื่นๆ เช่น ไต ระบบหายใจ ระบบทางเดินอาหาร ระบบประสาท ระบบสืบพันธุ์ และระบบภูมิคุ้มกัน

          จากตัวอย่างสารเคมีที่หยิบยกมาเล่าสุ่กันฟังยังถือว่าเป็นเพียงเศษเสี้ยวเดียวที่เรารับเข้าไป สารเหล่านี้มีบทบาทในการเกิดขึ้นของเซลล์มะเร็งตั้งต้นในสิ่งมีชีวิตหรือโรคเรื้อรังอื่นๆ  จึงไม่น่าแปลกใจที่คนยุคปัจจุบันจะเจ็บป่วยง่ายขึ้น โรคภัยถามหา บางครั้งก็ดูแก่ก่อนวัย

การดีท็อกซ์ล้างสารพิษให้ประโยชน์อะไรแก่เรา

อาจช่วยคุณลดอาการดังต่อไปนี

  • อาการเหนื่อยเพลียไม่ทราบสาเหตุ
  • อืดแน่นตัว
  • ภูมิแพ้
  • ผิวหนังแพ้ง่าย
  • ตาบวมหรือมีถุงใต้ตา
  • ปัญหาปวดประจำเดือน
  • ปวดศีรษะไม่ทราบสาเหตุ

ทั่วไปร่างกายสามารถกำจัดสารพิษได้ในเบื้องต้น จัดเป็น 5 ระบบ

1.ระบบเลือด

2.ระบบทางลำไส้ทางเดินอาหาร

3.ระบบตับ

4.ระบบน้ำเหลืองและไต

5.ระบบพยาธิ

          หากขบวนการขับสารพิษออกจากร่างกายลดลง หรือได้รับสารพิษมากเกิน ทำให้เกิดภาวะสารพิษตกค้างในร่างกายได้ ส่งผลให้เกิดภาวะผิดปกติของเซลล์ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของโรคต่างๆ และหากสะสมเรื้อรังอาจก่อให้เกิดอาการแสดงความผิดปกติในร่างกายตามมาได้ วิธีเราสามารถดูแลตัวเองเบื้องต้นได้คือใช้หลักการ “ลดการรับสารพิษ และเพิ่มการขับพิษหรือการล้างสารพิษ”  วิธีล้างสารพิษพบได้หลายแบบ ควรศึกษาข้อมูล ผลข้างเคียง และวิธีการก่อนเริ่มต้น หนึ่งในความเชื่อสมัยก่อนคือการสวนล้างลำไส้ ซึ่งปัจจุบันการสวนล้างลำไส้ใช้ในโรงพยาบาลอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์เท่านั้น เนื่องจากแรงดันน้ำที่มากเกินในลำไส้ใหญ่เป็นอันตรายเสี่ยงต่อลำไส้แตกทะลุได้ ปัจจุบันใช้เพื่อช่วยให้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านระบบทางเดินอาหารหรือแพทย์ที่ส่องกล้องตรวจเห็นผนังลำไส้ได้ชัดเจนระหว่างการตรวจ และการสวนล้างลำไส้ที่ลำไส้ใหญ่ไม่สามารถทำความสะอาดในส่วนของลำไส้เล็กได้

          ดังนั้นการดีท็อกซ์ไม่ใช่แค่การเพิ่มการขับถ่าย แต่เป็นการที่ทำให้ร่างกายได้พักจากการรับสารพิษ วิธีการดีท็อกซ์ในปัจจุบันมีให้เลือกมากมาย แต่ก่อนเลือกโปรดใช้วิจารณญาณ ในโลกปัจจุบันที่สภาวะแวดล้อมเปลี่ยนไป หากเรายังไม่ตระหนัก และหันมาดูแลตัวเราเองมากขึ้น ท้ายสุดคุณก็ต้องให้สถานพยาบาลดูแล ตอนนี้รับรู้ข้อมูลมากขึ้นแล้ว เริ่มต้นใส่ใจตัวเองและคนที่คุณรักก็ยังไม่สายค่ะ